เป็นธุรกิจ SME อยากมีเว็บไซต์ติดหน้าแรกใน Google มีวิธีทำ SEO อย่างไร?
ในยุคดิจิทัลที่การค้นหาข้อมูลออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ การมีเว็บไซต์เปรียบเสมือนหน้าร้านออนไลน์ที่สำคัญสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (SME) เพราะนอกจากจะเป็นหน้าร้านให้ผู้คนสามารถมาเลือกชมสินค้าได้ การมีเว็บไซต์ยังเป็นการแสดงการมีตัวตน ทำให้ธุรกิจดูน่าเชื่อถือมากขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ดี การมีเว็บไซต์อย่างเดียวไม่เพียงพอ ธุรกิจจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มโอกาสในการปรากฏบนหน้าแรกของ Google ด้วยเช่นกัน วันนี้เราเลยเตรียมวิธีทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดหน้าแรก Google ฉบับที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (SME) พร้อมแนะนำวิธีทำแบบ Step-by-Step จะมีอะไรบ้าง มาดูพร้อมกันในบทความนี้!
SEO คืออะไร?
SEO หรือที่ย่อมาจาก Search Engine Optimisation คือกระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้น ๆ บนหน้าผลการค้นหา (Search Engine Result Page: SERP) ของ Search Engine ต่าง ๆ เช่น Google, Bing, Yahoo โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา
การทำ SEO สำคัญอย่างไรสำหรับธุรกิจ SME
- เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์
SEO ช่วยให้เว็บไซต์ธุรกิจ SME ของคุณปรากฏบนหน้าแรกของ Google เมื่อลูกค้าเป้าหมายค้นหาคำหลักหรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เว็บไซต์ของคุณจะมีโอกาสถูกคลิกเข้าชมมากขึ้น
- เพิ่มโอกาสในการขาย
SEO จะช่วยดึงดูดลูกค้าเป้าหมายเข้ามาสู่เว็บไซต์ จึงเป็นการเพิ่มโอกาสขายและทำให้ธุรกิจ SME เติบโตในระยะยาว
- สร้างการรับรู้แบรนด์:
การทำ SEO จนเว็บไซต์ปรากฏบนหน้าแรก จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แบรนด์ในมุมมองของลูกค้า
- ประหยัดค่าโฆษณา
SEO เป็นกระบวนการออร์แกนิกที่ต้องอาศัยการปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และไม่สามารถซื้อโฆษณาได้ ดังนั้น นี่จึงเป็นวิธีการตลาดออนไลน์ที่คุ้มค่า เนื่องจากแบรนด์ไม่จำเป็นต้องเอางบมาลงในด้านการโฆษณา
วิธีทำ SEO สำหรับธุรกิจ SME ฉบับทำตามได้แบบ Step-by-Step
- วิเคราะห์คีย์เวิร์ด:
- ระบุกลุ่มเป้าหมาย:
- วิเคราะห์ข้อมูลทางประชากรศาสตร์: เพศ, อายุ, อาชีพ, รายได้
- วิเคราะห์พฤติกรรม: ช่องทางออนไลน์ที่ใช้, คำหลักที่ค้นหา
- วิเคราะห์ความต้องการ: ปัญหา, แรงจูงใจในการซื้อ
- ค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง:
- ใช้เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด: Google Keyword Planner, Ahrefs, SEMrush
- วิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่คู่แข่งใช้
- วิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง
- เลือกคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาสูงและแข่งขันต่ำ:
- วิเคราะห์ปริมาณการค้นหา
- วิเคราะห์ระดับการแข่งขัน
- เลือกคีย์เวิร์ดที่มีศักยภาพ
- Optimise เว็บไซต์:
- ใส่คีย์เวิร์ดในบทความหรือคอนเทนต์บนเว็บไซต์:
- Title Tag: ใส่คีย์เวิร์ดหลัก 1-2 คำ ความยาวไม่เกิน 60 ตัวอักษร
- Meta Description: ใส่คีย์เวิร์ดหลัก 1-2 คำ ความยาวไม่เกิน 160 ตัวอักษร เขียนให้น่าสนใจ ดึงดูดให้คลิก
- เนื้อหา: ใส่คีย์เวิร์ดหลักและคีย์เวิร์ดรองในเนื้อหา กระจายอย่างสม่ำเสมอ เน้นความเป็นธรรมชาติ
- URL: ใส่คีย์เวิร์ดหลัก ความยาวไม่เกิน 100 ตัวอักษร ใช้อักษรตัวพิมพ์เล็ก
- Optimize รูปภาพ:
- ใส่ alt text ที่อธิบายรูปภาพ พร้อมใส่คีย์เวิร์ด
- ตั้งชื่อไฟล์รูปภาพโดยใช้คีย์เวิร์ด
- บีบอัดขนาดไฟล์รูปภาพ
- สร้าง Link
- Internal Links: เชื่อมโยงหน้าเว็บภายในเว็บไซต์
- External Links: เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ
- ปรับโครงสร้างเว็บไซต์:
- ใช้งานง่าย โหลดเร็ว
- เมนูชัดเจน
- ค้นหาภายในเว็บไซต์ได้สะดวก
- สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ:
- เขียนเนื้อหาที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
- วิเคราะห์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
- เขียนเนื้อหาที่ตอบโจทย์ปัญหา
- ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย
- นำเสนอเนื้อหาให้น่าสนใจ
- เน้นเนื้อหาที่ informative และ engaging
- Informative: ให้ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร
- Engaging: ดึงดูดความสนใจ กระตุ้นให้เกิดการอ่าน
- Unique: แตกต่าง ไม่เหมือนใคร
- Trustworthy: น่าเชื่อถือ
- อัปเดตเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ
- เพิ่มเนื้อหาใหม่
- แก้ไขเนื้อหาเก่า
- ลบเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้อง
- วิธีทำ SEO เพิ่มเติมสำหรับ SME
- Local SEO
- เน้นการค้นหาในพื้นที่
- ใส่ข้อมูล NAP (Name, Address, Phone Number) บนเว็บไซต์
- ลงทะเบียน Google My Business
- เขียนบทความเกี่ยวกับสถานที่ใกล้เคียง
- ใส่ Local keywords
- Mobile SEO:
- ปรับเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งานบนมือถือ
- ใช้ Responsive design
- ตรวจสอบความเร็วในการโหลดเว็บไซต์
- ปรับขนาดตัวอักษรและรูปภาพให้เหมาะสม
- Backlink
- สร้าง Backlink จากเว็บไซต์อื่น
- เขียนบทความ Guest Post
- แลกเปลี่ยน Backlink
จะเห็นได้เลยว่าวิธีทำ SEO สำหรับ SME นั้นไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เริ่มต้นทำตามขั้นตอน ศึกษาเพิ่มเติม และปรับใช้กลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้เว็บไซต์ของคุณก็มีโอกาสปรากฏบนหน้าแรกของ Google แล้ว